Valorant: เกมยิงสุดเข้มข้น!

Valorant เป็นเกม FPS (First-Person Shooter) แนว Tactical ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัวในปี 2020 โดย Riot Games, บริษัทเดียวกันที่ทำ League of Legends เกมนี้ผสมผสานกลไกการยิงแบบสมจริงเข้ากับความสามารถพิเศษของตัวละคร (Agent) สร้างประสบการณ์การเล่นที่ตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร
โลกของ Valorant: สงครามระหว่าง Radianite และ Earth
เรื่องราวใน Valorant เกิดขึ้นบนโลกในอนาคตอันใกล้ ที่ถูกคุกคามจากพลังเหนือธรรมชาติที่เรียกว่า “Radianite”
Radianite เป็นสารมหัศจรรย์ที่พบได้ทั่วโลก และมีคุณสมบัติพิเศษในการเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้ เช่น การควบคุมธาตุ, การรักษาแผล, หรือการเคลื่อนย้ายไปยังมิติอื่น
อย่างไรก็ตาม, พลังของ Radianite นั้นรุนแรงเกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้ และได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายและสงครามทั่วโลก
เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจาก Radianite, “VALORANT Protocol” องค์กรลับที่ประกอบด้วยเอเจนต์พิเศษที่มีความสามารถในการควบคุม Radianite ได้ถูกจัดตั้งขึ้น
ภารกิจของ VALORANT Protocol คือการป้องกันการลอบยึดครองโลกของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ต้องการใช้ Radianite เพื่อครอบงำมวลมนุษย์
กลไกการเล่น: การรวมกันระหว่าง FPS และ MOBA
Valorant คัดเลือกกลไกการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยผสมผสานองค์ประกอบของเกม FPS อย่าง Call of Duty หรือ Counter-Strike เข้ากับกลยุทธ์และความสามารถของตัวละครแบบ MOBA (Multiplayer Online Battle Arena)
ผู้เล่นจะต้องเลือกระหว่าง 5 ตัวละคร Agent ที่มีทักษะและความสามารถเฉพาะตัว เช่น Jett ที่สามารถเคลื่อนที่เร็ว, Cypher ที่เชี่ยวชาญด้านการสอดแนม, หรือ Brimstone ที่เชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกล
ทักษะของ Agent จะถูกนำมาใช้เพื่อให้ได้เปรียบในการยิงปืนและการต่อสู้กับศัตรู ตัวอย่างเช่น, Cypher สามารถใช้ “Cyber Cage” เพื่อปิดกั้นเส้นทาง หรือ “Spycam” เพื่อสำรวจบริเวณรอบๆ
โหมดการเล่น: การต่อสู้แบบ 5v5 และโหมดต่างๆ
Valorant มีโหมดการเล่นหลักคือ “Unrated” และ “Competitive” ซึ่งเป็นโหมดการต่อสู้แบบ 5v5 ระหว่างฝ่ายโจมตีและฝ่ายป้องกัน
- Unrated: โหมดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนทักษะและเรียนรู้กลไกของเกม
- Competitive: โหมดนี้เป็นโหมดการแข่งขันแบบจัดอันดับ ซึ่งผู้เล่นจะได้รับคะแนน Rating ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขัน
นอกจากโหมดหลักแล้ว Valorant ยังมีโหมดการเล่นอื่นๆ เช่น Deathmatch, Spike Rush, และ Replication
กราฟิกและเสียง: สร้างบรรยากาศ FPS ที่สมจริง
Valorant มีกราฟิกที่สวยงามและคมชัดในสไตล์ “Cel-Shaded” ซึ่งช่วยให้เกมดูมีชีวิตชีวาและน่าดึงดูด
เสียงในเกมก็เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่สร้างความตื่นเต้นและความสมจริง
เอฟเฟคเสียงปืน, การเคลื่อนไหวของตัวละคร, และการใช้ความสามารถของ Agent ถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม
สรุป: Valorant - เกม FPS ที่ไม่ควรพลาด
Valorant เป็นเกม FPS ที่ครบเครื่องทั้งในแง่ของGameplay, กราฟิก, และเสียง
ด้วยกลไกการเล่นที่ผสมผสานระหว่าง FPS และ MOBA, Agent ที่มีเอกลักษณ์, และโหมดการเล่นที่หลากหลาย Valorant เป็นเกมที่เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับ
ตารางแสดงรายละเอียด Agent ใน Valorant
Agent | ประเภท | ความสามารถพิเศษ |
---|---|---|
Jett | Duelist | Windrunner (เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว), Updraft (กระโดดขึ้นไปสูง) , Cloudburst (ขว้างควันเพื่อปิดบัง tầmมอง), Blade Storm (โจมตีด้วยมีดสั้น 5 ครั้ง) |
Cypher | Sentinel | Cyber Cage (สร้างกรงพลัง), Spycam (กล้องสอดแนม), Neural Theft (เปิดเผยตำแหน่งศัตรู), Ultimate - Nightmare (ปิดบังการมองเห็นของศัตรู) |
Brimstone | Controller | Sky Smoke (ขว้างควัน), Incendiary (ระเบิดเพลิง), Stim Beacon (เพิ่มความเร็วและพลังโจมตี), Orbital Strike (โจมตีด้วยลำแสงจากอวกาศ) |
Sage | Sentinel | Healing Orb (รักษาพันธมิตร), Slow Orb (สร้างลูกบอลช้าลง), Barrier Orb (สร้างกำแพงป้องกัน), Resurrection (ฟื้นฟูพันธมิตรที่เสียชีวิต) |
Valorant: การเปรียบเทียบกับเกม FPS อื่น
Valorant ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้เล่นเกม FPS เนื่องจากความแตกต่างจากเกมอื่นๆ เช่น Call of Duty, Counter-Strike และ Overwatch:
-
Call of Duty: Valorant มีระบบยิงที่สมจริงและเชิงกลยุทธ์มากกว่า Call of Duty ซึ่งมักจะเน้นไปที่การกระทำอย่างรวดเร็ว
-
Counter-Strike: Valorant มีความคล้ายคลึงกับ Counter-Strike ในแง่ของโหมดการเล่น 5v5 และการใช้ปืน แต่ Valorant ได้เพิ่มความสามารถพิเศษของ Agent เข้ามาทำให้เกมมีมิติที่หลากหลายขึ้น
-
Overwatch: Overwatch เป็นเกม MOBA ที่เน้นไปที่การทำงานเป็นทีมและการใช้ความสามารถของตัวละคร Valorant ผสมผสานองค์ประกอบ FPS และ MOBA เข้าด้วยกัน
Valorant เป็นเกม FPS ที่น่าสนใจและมีความหลากหลาย เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับ